ปรกติเรามักจะคุ้นเคยกับระบบ 3G ในแง่ของการใช้งานด้าน Wireless Broadband, Video Call หรือการ download บรรดา content ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน แต่นั่นเป็นเพียงแค่มุมมองในแง่ของการใช้งานด้านหนึ่ง ขณะเดียวกันประโยชน์เชิงลึกของ 3G ยังมีมากกว่านั้น ไม่ว่าจะไม่ว่าจะเป็นด้านของเศรษฐกิจ การพัฒนาประเทศ การศึกษา รวมถึงด้านสาธารณสุข ซึ่งเป็นด้านที่น้อยคนจะตระหนักถึง
Concept ของ Telehealth คือ เรื่องของอุปกรณ์วัดค่าตัวเลขระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกาย ที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่บนส่วนต่างๆ ของร่างกายเรา เพื่อส่งข้อมูลแบบ realtime กลับไป ให้แพทย์ ข้อมูลที่ถูกส่งกลับมีทั้งที่เป็นข้อมูล ที่เป็นพื้นฐาน เช่น ความดันโลหิต แต่บางข้อมูลที่ต้องการความละเอียดแม่นยำสูง เช่น คลื่นหัวใจ คลื่นสมอง พวกนี้ต้องอาศัยการส่งสัญญาณแบบ realtime และต้องการระบบการสื่อสารที่มี bandwidth ในการรับส่งข้อมูลที่กว้าง รวมถึงมีความเร็วสูง เมื่อเปรียบเทียบดูแล้วเราอาจมองว่าร่างกายคนเราก็เหมือน laptop เครื่องหนึ่งก็ว่าได้
ในปัจจุบันเรามีการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีของโครงข่าย 3G ทางการแพทย์ในหลากหลายประเทศ เช่น ไนโรบี เคนยา เปรู ในประเทศไทยเองก็มีโครงการสาธิตที่ร่วมกับ พอ.สว. ที่พังงา เป็นการนำเทคโนโลยี Telehealth มาใช้ในการแพทย์ ด้วยการนำอุปกรณ์ที่เป็นเครื่องมือแพทย์ไปเชื่อมต่อกับโครงข่าย 3G ซึ่ง ณ เวลานั้นเป็นโครงข่ายของ กสท การใช้งานจริงจะเป็นการส่งข้อมูลจากอุปกรณ์แพทย์เครื่องนั้นๆ ผ่านโครงข่าย 3G เช่นเครื่องตรวจสภาพผิว ตรวจวัดคลื่นหัวใจ ซึ่งติดตั้งกล้องที่มีความละเอียดสูงและสามารถส่งข้อมูลแบบ realtime ได้ ไม่ว่าหมอกับผู้ป่วยจะอยู่ไกลกันแค่ไหนก็สามารถส่งข้อมูลถึงกันได้
เหตุที่ต้องการโครงข่าย 3G เพราะว่ารูปแบบของการโอนถ่ายข้อมูลจะเป็นแบบการส่งและรับพร้อมๆ กัน ซึ่งโครงข่าย 2G ในปัจจุบันไม่สามารถทำได้ สำหรับ Telehealth ของ พอ.สว. จะมีเพียงแค่ webcam, notebook computer ที่ต่อกับอุปกรณ์ของ กสท. ที่ใช้โครงข่าย 3G ของ กสท เน้นการใช้งานเพื่อตรวจโรคผ่านทาง webcam เท่านั้น แต่ก็มีการนำมาประยุกต์ใช้กับการรักษาพยาบาล case สำคัญๆ บ้าง เช่น การปรึกษาแพทย์ในโรงพยาบาลใหญ่ประจำจังหวัด
โครงการของ พอ.สว. มีการทำทั้งหมด 9 จังหวัดผ่านทาง 3G ภายใต้วัตถุประสงค์หลักคือการทำ Video Call ซึ่งโครงข่ายอื่นๆ ยังไม่สามารถรองรับได้ โครงการนี้หากขยายความจะสอดคล้องกับโครงการของรัฐบาลที่ต้องการทำ Telehealth กับสถานีอนามัยที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล เหตุผลในการทำโครงการของ พอ.สว. ที่ดูแล้วค่อนข้างจะ basic อยู่ มากนั้น เพราะว่าคนในชนบทห่างไกลยังขาดความรู้ความชำนาญในการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้การใช้งานสามารถทำได้เพียงแค่ปรึกษาแพทย์เท่านั้น จากการสังเกตการณ์โครงการที่พังงาจะพบว่า ต้องอาศัยการอบรมค่อนข้างมาก
ใน ส่วนของการทำโครงการสาธิตจะครอบคลุมพื้นที่ 2 โรงพยาบาล และ 2 สถานีอนามัย ในจังหวัดพังงา ซึ่งตอนนี้ก็ใช้งานได้จริงและดำเนินไปได้ด้วยดีทั้งที่สถานีอนามัยเกาะ ปันหยี และสถานีอนามัยบ้านพรุใน ล่าสุด กทช. ก็ร่วมสนับสนุนโครงการดังกล่าวด้วยการเข้ามาให้ความรู้กระตุ้นให้เกิดความตื่นตัว และตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ 3G กับ ระบบสาธารณสุข เหตุที่เลือกสนับสนุนสาธารณสุขที่พังงาเพราะบรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ นี่มีความตื่นตัวเรื่องเทคโนโลยีสมัยใหม่อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะแพทย์ที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่นี้ มีความสนใจในเทคโนโลยีใหม่ๆ และตื่นตัวกับกระแสเทคโนโลยีอยู่เสมอ นายแพทย์มารุต เหล็กเพชร ผู้อำนวยการศูนย์แพทย์ชุมชนพรุใน เกาะยาวใหญ่ หรือหมอนิล ของชาวบ้าน หรือ ที่รู้จักกันดีในนามปากกา นฆ ปักษานาวิน ซึ่งใช้กับงานเขียนหลากหลาย เพื่อเผยแพร่งานทางวิชาการทางการแพทย์และสารธาณสุขฉบับชาวบ้าน ได้เป็นแพทย์ชนบทไทยคนแรกๆที่เปิดรับผ่านโครงข่าย 3 G ด้วยวิธีการรักษาที่นำเทคโนโลยี Telehealth มาประยุกต์ใช้ในการรักษาผู้ป่วยตามแบบฉบับของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งข้อมูลของอาการป่วยผ่านเทคโนโลยีระบบ CDMA ไปยังโรงพยาบาลใหญ่ เช่น โรงพยาบาลเกาะยาวชัยพัฒน์ หรือโรงพยาบาลที่อยู่บนฝั่ง เป็นต้น
หากเทียบกับประเทศอื่นที่มีโครงการในลักษณะเดียวกัน ส่วนใหญ่จะมีความคล้ายคลึงกับ พอ.สว. เช่น เปรู มีการนำ laptop และอุปกรณ์ต่างๆ มอบให้กับแพทย์อาสาสมัครเพื่อใช้งาน และติดต่อสื่อสาร ไปจนถึงการเก็บประวัติของคนไข้ เพื่อสนับสนุนการทำงานของแพทย์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ในประเทศเคนยา มีการนำเทคโนโลยี 3G เข้ามาช่วยในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV หรือ เอดส์ ทั้งนี้อ้างอิงจากผลสำรวจโดยกระทรวงสาธารณสุขประเทศเคนยา พบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อ HIV อยู่ประมาณ 392,000 ราย ที่ต้องการการรักษาแบบเร่งด่วน นอกจากนี้ผลสำรวจยังแสดงให้เห็นถึงตัวเลขกว่า 8.7% ของสตรีชาวเคนยาที่มีอายุระหว่าง 15-64 ปี อยู่ในกลุ่มผู้ติดเชื้อ HIV
จากผลสำรวจดังกล่าวทำให้เกิดการพัฒนาโครงการนำร่อง ที่จะใช้ประสิทธิภาพของเทคโนโลยี 3G มาช่วยในการรักษาผู้ป่วย ตัวโครงการจะประยุกต์ใช้จุดแข็งของเทคโนโลยี 3G มาช่วยเสริมประสิทธิภาพของการรายงานผล และให้การรักษาด้วยยา
ในขณะที่ประเทศสเปนมีการตั้งโครงการ 3G for All Generations ที่จะเข้ามาเป็นโซลูชั่นในการดูแลผู้สูงอายุที่มีมากกว่า 7 ล้านคนในสเปน เนื่องจากกลุ่มผู้สูงอายุในสเปนมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในแถบชนบท 3G for All Generation จึงมีการตั้งเป้าไว้สำหรับการดูแลสวัสดิการผู้สูงอายุ จำนวน 100 คน ให้พึ่งพาตนเองได้ และสามารถติดต่อสื่อสารกับบุคคลภายนอกได้โดยใช้โครงข่าย 3G
โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่าง Vodafone Spain Foundation และ Spanish Red Cross ที่ต้องการผลักดันให้ผู้สูงอายุมีสภาพจิตใจที่ตื่นตัว สามารถปรับสภาพเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ โครงการดังกล่าวได้มอบอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ให้กับผู้สูงอายุเหล่านี้ ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้นานขึ้น สามารใช้ชีวิตอยู่ในบ้านของตนเองได้ตามลำพัง และปรับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น โซลูชั่นที่โครงการมอบให้จะประกอบด้วย Video Conference และ Video Call รวมถึงการdownload บรรดา Multimedia Content นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ อีกเช่น โทรทัศน์ เครื่องโทรศัพท์พื้นฐาน การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยเทคโนโลยี 3G data card จาก โวดาโฟน โมเด็ม และ โทรศัพท์มือถือ 3G
เช่นเดียวกับประเทศเปรู ที่มีการตั้งโครงการ Kausay Wasi Health Clinic ที่เอื้อประโยชน์ในการติดต่อสื่อสารกับคลินิกในพื้นที่ห่างไกล โครงการนี้ตั้งอยู่ที่สำนักงานสาธารณสุขในหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อ Coya ที่อยู่ห่างจากโบราณสถาน Machu Picchu, หลายชั่วโมงหากเดินทางโดยรถ
โครงการ นี้มีคณะแพทย์อาสาจากสหรัฐอเมริกาบินตรงมาเพื่อดูแลชนพื้นเมืองที่สืบเชื้อ สายจากชนเผ่าอินคา เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้อยู่ในสถานที่ไกลและกันดารจนไม่สามารถเข้าถึงระบบ การสาธารณสุขได้ โครงการนี้ใช้การมอบอุปกรณ์เทคโนโลยีพื้นฐานมาประยุกต์ใช้ในการดูแลรักษาผู้ ป่วย อาทิ laptop computer โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ไอทีอื่นๆ ที่จำเป็น ปัจจุบันคลินิกแห่งนี้สามารถติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอก และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้จากทุกมุมโลก
ด้าน สหรัฐอเมริกา ก็มีการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาใช้ประยุกต์ในการทำศัลยกรรมผิวหนังเช่น เดียวกัน ด้วยการผสานเทคโนโลยีของหุ่นยนต์เข้ากับเทคโนโลยี 3G EV-DO Rev A ที่ทำให้ศัลยแพทย์ผิวหนังที่ไมอามี่ สามารถควบคุมหุ่นยนต์ดังกล่าวที่อยู่ใน Ryder Trauma Center ได้
หุ่นยนต์ InTouch Health RP-7 และแล็บท็อปที่มีการติดตั้งระบบปฏิบัติการพิเศษ จำนวน 5 ชุด พร้อมดาต้าการ์ด EV-DO Rev A ถูกบริจาคให้กับ William Lehman Injury Research Center ทำให้ศัลยแพทย์สามารถควบคุมหุ่นยนต์นี้ได้อย่างอิสระในการดูแลผู้ป่วยได้ถึง ข้างเตียงเพื่อทำการตรวจรักษารวมถึงให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยได้อย่างละเอียด พร้อมกับพยาบาลที่ถูกฝึกมาเป็นพิเศษเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
ในการทำระบบ Telehealth ใน อนาคต คาดว่าการดูแลผู้ป่วยจะมีมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น โดยที่คนไข้ไม่จำเป็นต้องนอนรอแพทย์เป็นเวลานานๆ อีกต่อไป เพียงแค่อาศัยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เช่น หุ่นยนต์ที่ติดตั้งอุปกรณ์รับส่งสัญญาณ 3G ไว้ ให้แพทย์สามารถบังคับจากระยะไกลได้จากทุกมุมโลก แล้วในห้องผู้ป่วยมีเพียงพยาบาลที่คอยดูแล และแจ้งอาการต่างๆ ไปจนถึงรับคำแนะนำจากแพทย์ผ่านทางหน้าจอมอนิเตอร์ที่ติดตั้งไว้บนหุ่นยนต์ ตัวนั้นๆ ที่สำคัญยังสามารถส่งข้อมูลอาการป่วยของผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่ใหญ่กว่า และมีอุปกรณ์พร้อมกว่า เพื่อขอรับคำปรึกษาแนะนำจากแพทย์ในโรงพยาบาลนั้นๆ โดยไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแต่อย่างใด
นับเป็นมิติใหม่ ในวงการแพทย์เลยทีเดียว หากระบบ 3G ถูก นำมาใช้ เพราะโอกาสในการยืดอายุขัยของมนุษย์ จะเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ เพียงแต่โครงข่ายนั้นจะต้องเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมเสียก่อน ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นของใคร ขอให้ประโยชน์มาตกที่ประชาชนก็แล้วกัน
ขอขอบคุณ บริษัท ควอลคอมม์ อินเตอร์เนชั่นแนล อินคอร์ปอเรทเต็ด อิงค์ ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล
รู้จักกับ Telehealth ของไทย
ในขณะที่ต่างประเทศ มีการใช้งานระบบ Telehealth กัน แล้ว ประเทศไทยของเราก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน ด้วยความช่วยเหลือจาก บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ร่วมกับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ ONFEC บริษัท Axesstel Inc., และบริษัท ควอลคอมม์ อินเตอร์เนชั่นแนล อินคอร์ปอเรทเต็ด อิงค์ ทำให้โครงการนำร่องโดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 3G ในการรักษาทางไกลเกิดขึ้นเป็นรูปธรรม ที่จังหวัดพังงา
โครงการ Telehealth ที่ พังงามีรูปแบบการดำเนินงาน โดยให้สถานีอนามัยเกาะปันหยี และสถานีอนามัยบ้านพรุในเกาะยาวใหญ่ ที่ถือเป็นชุมชนพื้นที่ห่างไกล สามารถติดต่อสื่อสารกับโรงพยาบาลบนแผ่นดินใหญ่ได้ โดยอาศัยอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยี Telemedicine และ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ในการดำเนินการรักษาผู้ป่วยในเบื้องต้นด้วยระบบกล้องที่ติดตั้งมาในอุปกรณ์ ตรวจสอบตา, อุปกรณ์ตรวจสอบหู คอ จมูก, อุปกรณ์ตรวจสภาพผิวหนัง, อุปกรณ์ตรวจสอบการทำงานหัวใจและปอด และอุปกรณ์ตรวจวัดคลื่นหัวใจ พร้อมกับ desktop computer และ notebook ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์การเชื่อมต่อ wirelessความเร็ว สูง สำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการแพทย์ ระหว่างสถานีอนามัยทั้งสองแห่ง กับ โรงพยาบาลหลักในจังหวัดพังงา ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบ EV-DO ทำให้การเชื่อมต่อโครงข่ายเป็นแบบ realtime
ปัจจุบัน โครงการดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการดำเนินงานใช้งานจริง โดย นาย แพทย์มารุต เหล็กเพชร ผู้อำนวยการศูนย์แพทย์ชุมชนพรุใน เกาะยาวใหญ่ ที่อุทิศตัวให้กับการดูแลรักษาผู้ป่วยและชาวบ้านในท้องที่ให้มีคุณภาพชีวิต ที่ดีขึ้น โดยอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาประกอบการรักษา
“Telehealth ทำให้ การรักษาพยาบาลมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงยกระดับมาตรฐานการให้บริการต่างๆ ต่อผู้ป่วยมีความถูกต้อง แม่นยำยิ่งขึ้น และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปถึงโรงพยาบาลใหญ่บนฝั่ง เพราะ Tele Health ทำให้แพทย์ที่พรุไน สามารถสื่อสารและขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้ชำนาญจากโรงพยาบาลใหญ่ได้ทันที” นายแพทย์มารุต กล่าว
หมอจักรกล
โดยปกติเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าขึ้นทุกวันอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ใครจะเชื่อว่าสิ่งที่เราพบเห็นจนชินตาในภาพยนตร์ sci – fi จะกลายเป็นความจริงให้เราได้สัมผัสกัน เมื่อเทคโนโลยีการสื่อสารถูกนำมาผนวกกับเทคโนโลยีด้านจักรกล ในที่นี้คือการนำเทคโนโลยี 3G เข้ามาผนวก convergence เข้ากับนวัตกรรมด้าน robot
รูปแบบการรักษาด้วยระบบนี้ แพทย์จะทำการควบคุม robot จากระยะไกล ในการตรวจอาการผู้ป่วย และให้คำปรึกษารวมถึงส่งข้อมูลแลกเปลี่ยนกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ แบบ realtime ในขณะที่คนไข้มีเพียงแค่พยาบาลคอยดูแลและรับคำสั่งจากแพทย์เท่านั้น
ระบบ นี้กล่าวได้ว่า เป็นนวัตกรรมใหม่ของวงการแพทย์ก็ว่าได้ เนื่องจากตัวเทคโนโลยีมีการอำนวยความสะดวกสบายให้กับทั้งแพทย์และผู้ป่วย โดยที่แพทย์ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาถึงโรงพยาบาล หรือรอให้ถึงเวลาเข้าเวร และผู้ป่วยเองก็ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการรอคอยให้แพทย์เข้าเวรเพื่อมาตรวจดู อาการ
โดยส่วนตัวเชื่อว่าระบบนี้ น่าจะได้รับความนิยมจากโรงพยาบาลใหญ่ๆ ในอนาคตอันใกล้ ขอเพียงแค่ปัจจัยเดียวเท่านั้น นั่นคือ ระบบโครงข่าย 3G