คณะรัฐมนตรีอนุมัติกู้ เงินจากต่างประเทศเพิมขึ้นอีก 4.7 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ลงทุน 6 โครงการ ตั้งแต่รถไฟฟ้า,จัดหาหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าของรฟท. และ ให้ทีโอทีวางโครงข่ายโทรศัพย์มือถือ 3 จี
นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2552 ว่า ได้มีการเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอกรอบเงินกู้ต่างประเทศ สำหรับโครงการลงทุน 6 โครงการ รวม 1,353 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 47,385 ล้านบาท โดยหลังจากนี้ กระทรวงการคลังต้องเตรียมรายละเอียดเพื่อรับฟังความเห็นจากประชาชนและหน่วย งานที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจึงเสนอให้รัฐสภาเห็นชอบ สำหรับโครงการที่จะใช้เงินกู้ดังกล่าว ประกอบด้วย สำหรับกรอบการกู้ เงินจะเจรจาให้ได้ต้นทุนเงินกู้ในระดับที่เหมาะสม สอดคล้องภาวะตลาด และมีระยะเวลาการกู้เงินที่สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาลใน อนาคต โดยเงินกู้จาก JIGA จะพิจารณาต้นทุนการกู้เงินโดยใช้ต้นทุนที่ได้แปลงหนี้ต่างประเทศเป็นเงินบาท (swap rate) และนำมาเปรียบเทียบกับต้นทุนการกู้ในประเทศ นายวัชระ กล่าวว่า นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบตามที่กระทรวงคลังเสนอใช้วงเงินกู้จาก Clean Technology Fund (CFT) ของธนาคารโลก จำนวน 10,000 ล้านบาท สำหรับโครงการลงทุนเพื่อขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีคาร์บอนต่ำของประเทศไทย ซึ่งคลังแสดงความสนใจที่จะกู้เงินจาก CFT โดยให้เหตุผลว่าเป็นแหล่งเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำมาก ที่จะใช้สนับสนุนโครงการลงทุนพลังงานทดแทน ลดก๊าซเรือนกระจก โดยหลังจากนี้กระทรวงการคลังต้องทำรายละเอียดเพื่อฟังความเห็นและเสนอสภา พิจารณาอนุมัติเงินกู้ดังกล่าวต่อไป Source: Link |